แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเชียงแสน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน
สร้างโดยพระเจ้าแสนภูเมื่อประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 19
โบราณสถานประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงระฆังแบบล้านนา เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สุดในเชียงแสน
นอกจากนี้ยังมีพระวิหารที่เก่ามากซึ่งพังทลายเกือบหมดแล้ว และเจดีย์รายแบบต่าง ๆ 4
องค์
วัดพระเจ้าล้านทอง
วัดพระเจ้าล้านทอง
วัดนี้ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมือง เจ้าทองงั่ว ราชโอรสพระเจ้าติโลกราชเป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2030 ได้ทรงหล่อพระพุทธรูปองค์หนึ่งหนักล้านทอง (1,200 กิโลกรัม) ขนานนามว่า พระเจ้าล้านทอง เป็นพระประธาน ในวัดนี้ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งได้มาจากวัดทองทิพย์ เรียกกันว่า พระเจ้าทองทิพย์ เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง พระพักตร์งดงามมากศิลปสมัยสุโขทัย
วัดนี้ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมือง เจ้าทองงั่ว ราชโอรสพระเจ้าติโลกราชเป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2030 ได้ทรงหล่อพระพุทธรูปองค์หนึ่งหนักล้านทอง (1,200 กิโลกรัม) ขนานนามว่า พระเจ้าล้านทอง เป็นพระประธาน ในวัดนี้ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งได้มาจากวัดทองทิพย์ เรียกกันว่า พระเจ้าทองทิพย์ เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง พระพักตร์งดงามมากศิลปสมัยสุโขทัย
วัดป่าสัก
วัดป่าสัก
อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสนประมาณ 1
กิโลเมตร เขตตำบลเวียง พระเจ้าแสนภูทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1838
และให้ปลูกต้นสักล้อมกำแพงจำนวน 300 ต้น จึงได้ชื่อว่า “วัดป่าสัก”
ทรงตั้งพระพุทธโฆษาจารย์เป็นสังฆราชจำพรรษา ณ อารามแห่งนี้
ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ประธานทรงมณฑปยอดระฆัง
ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นอันวิจิตร เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
กระดูกตาตุ่มข้างขวาจากเมืองปาฏลีบุตร
วัดพระธาตุผาเงา
วัดพระธาตุผาเงา
อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสนไปตามเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ ประมาณ 4 กิโลเมตร
อยู่ตรงข้ามโรงเรียนสบคำ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
มีเจดีย์ทรงระฆังขนาดเล็กตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่ วิหารปัจจุบันสร้างทับซากวิหารเดิม
บนยอดเขาข้างหลังวัดเป็นที่ตั้งพระบรมพุทธนิมิตเจดีย์
เป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์สวยงามได้โดยรอบ
วัดเจดีย์เจ็ดยอด
วัดเจดีย์เจ็ดยอด
อยู่เหนือวัดพระธาตุผาเงาขึ้นไปบนดอยประมาณ 1
กิโลเมตร ตัววัดหักพังหมดแล้ว เหลือแต่เพียงซากอิฐเก่า ๆ แทบไม่เห็นรูปร่างเดิม
อาจกล่าวได้ว่า วัดพระธาตุผาเงาและวัดเจดีย์เจ็ดยอดอยู่บนเขาลูกเดียวกัน
พื้นที่ต่อเนื่องกันอย่างกว้างขวาง บริเวณร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่
สมกับเป็นสถานปฏิบัติธรรม
วัดพระธาตุจอมกิตติ
วัดพระธาตุจอมกิตติ
ตำบลเวียง
ตั้งอยู่บนถนนเลียบแม่น้ำเชียงแสน-เชียงของ ตามพงศาวดารกล่าวว่า พระเจ้าพังคราช
โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง เมื่อ พ.ศ. 1483 พร้อมกับพระธาตุจอมทอง
เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองสมัยเชียงแสน
ต่อมาพระเจ้าสุวรรณคำล้านได้บูรณะและปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุใหม่ รายละเอียดติดต่อ
โทร. 053 650 534
การเดินทาง
จากอำเภอเทิงใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 ผ่านอำเภอพญาเม็งราย
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1179 ผ่านปากทางเข้าน้ำตกตาดควัน บ้านชัยพัฒนา
เข้าเขตอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1098
ผ่านบ้านเนินสมบูรณ์ ปากทางแยกเข้าอำเภอเวียงชัย ปากทางเข้ากิ่งอำเภอดอยหลวง
เข้าทางหลวงหมายเลข 1271 ตรงสู่อำเภอเชียงแสน ผ่านวัดพระธาตุผาเงาเข้าถนนบายพาสข้ามแยกถนนเชียงราย-เชียงแสน
ไปอีก 2 กิโลเมตร
ถึงทางเข้าพระธาตุจอมกิตติด้านซ้ายมือ
วัดสังฆาแก้วดอนหัน
วัดสังฆาแก้วดอนหัน
อยู่ถนนเลียบแม่น้ำเชียงแสน-เชียงของ ใกล้วัดพระธาตุจอมกิตติ
มีประวัติตามตำนานว่า สร้างโดยพระเจ้าลวจักราช เมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 12
แต่หลักฐานที่พบแสดงว่ามีอายุอยู่ในช่วงไม่เกินพุทธศตวรรษที่ 21
กรมศิลปากรได้ขุดพบหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญมากมาย
โดยเฉพาะภาพบนแผ่นอิฐเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทศชาติตอนเวสสันดรชาดก เช่น
พระเวสสันดรเดินป่า ชูชกเฝ้าพระเวสสันดร เป็นต้น ลักษณะของภาพเป็นการเขียนลงบนอิฐก่อนการเผา
ที่น่าสนใจคือ อิฐดังกล่าวถูกนำมาก่อเป็นผนังและฉาบปูนปิดทับ
คงเนื่องจากความศรัทธาของชาวบ้านผู้สร้างวัดถวายมากกว่าเจาะจงให้คนมาชม
นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนจิตรกรรมฝาผนังที่หลุดพังมาจากผนังวิหาร
มีสภาพแตกหักแต่ยังคงเหลือลักษณะของสีและตัวภาพซึ่งใช้สีชาดและสีแดงเพียง ๒ สี
นับได้ว่าเป็นการค้นพบที่สำคัญทางวิชาการอย่างยิ่ง
ทะเลสาบเชียงแสน หรือ หนองบงคาย
ทะเลสาบเชียงแสน หรือ หนองบงคาย
อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงแสนตามทางหลวงหมายเลข 1016
สายเชียงแสน-แม่จัน ไปประมาณ 5 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายกิโลเมตรที่ 27
เข้าไปอีก 2 กิโลเมตร ในฤดูหนาวมีฝูงนกน้ำอพยพมาอาศัยที่ทะเลสาบแห่งนี้
และยังมีทิวทัศน์สวยงามมากเวลาพระอาทิตย์ตก
สบรวก หรือ ดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ
สบรวก หรือ ดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ
อยู่ห่างจากเชียงแสนไปทางทิศเหนือ 9
กิโลเมตร ตามถนนเลียบริมแม่น้ำโขง
สบรวกเป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว มาพบกับแม่น้ำรวกซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่า
จากจุดนี้นักท่องเที่ยวจะมองเห็นดินแดนที่เรียกกันว่า สามเหลี่ยมทองคำ
ซึ่งเชื่อมดินแดน 3 ประเทศ คือไทย ลาว พม่า เข้าด้วยกัน
ที่สบรวกมีบริการเรือให้เช่าเพื่อเดินทางไปชมทิวทัศน์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ใช้เวลาเดินทาง
20 นาที
และยังสามารถเช่าเรือจากสบรวกไปยังเชียงแสนและเชียงของได้ ใช้เวลาในการเดินทาง
ประมาณ 40 นาที และ 1
ชั่วโมงครึ่งตามลำดับ
หอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ
หอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ
ห่างจากอำเภอเชียงแสน 9
กิโลเมตร เป็นสถานที่จัดแสดงถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของฝิ่นในสามเหลี่ยมทองคำ
ต้นกำเนิดฝิ่น สงครามฝิ่น ผู้นำฝิ่นเข้ามาในเอเชีย ผลกระทบของฝิ่น
การยุติการดำรงชีวิตที่ต้องพึ่งพิงกับการปลูกฝิ่นและเสพฝิ่น
การฟื้นฟูสภาพชีวิตประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใจกลางสามเหลี่ยมทองคำของประเทศไทย
เป็นการแสดงนิทรรศการพร้อมสัมผัสกับเรื่องราวต่างๆของฝิ่นแบบคล้ายจริง ใช้เวลาชมเรื่องราวต่าง ๆ ในหอฝิ่นประมาณ 2-3
ชั่วโมง เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 08.30-16.00 น.
ค่าเข้าชม ชาวไทย 200 บาท ชาวต่างชาติ 300
บาท เด็กอายุ 12-18 ปี 50 บาท ผู้สูงอายุ 60
ปีขึ้นไป 50 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. 053
784 444 - 6 หรือ HYPERLINK
"http://www.goldentrianglepark.com" www.goldentrianglepark.com
พิพิธภัณฑ์บ้านฝิ่น
เป็นของเอกชน เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม 20 บาท นอกจากนี้ยังจัดทัวร์เกวียน “ฟาร์ม
คุ้มเจ้าเมือง” โดยเกษตรกรเลี้ยงวัวเทียมเกวียน บ้านสบรวก
สามเหลี่ยมทองคำ โดยจัดนำเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 3
เส้นทาง คือ
รอบบ่อปลา (ระยะสั้นประมาณ 15-20
นาที) เริ่มต้นจากจุดรับ ผ่านเข้าในแปลงทำนา วนรอบบ่อปลาในนาข้าว
ชมวิธีการทำนาในแปลงนาสาธิตและธรรมชาติรอบ ๆ
รอบพื้นที่ชายป่าและเนินเขา (ใช้เวลาประมาณ 40
นาที) เริ่มต้นจากจุดรับ ชมพื้นที่ทำนาและชมบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติจริง ๆ
ผ่านดอยกองหลวงเมือง (คุ้มผีเจ้าเมือง)
ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านไทยใหญ่
รอบดอยกองหลวงเมือง (ใช้เวลาประมาณ 50
นาที) เริ่มต้นจากจุดรับผ่านดอยกองหลวง วนรอบหนองน้ำหมู่บ้าน
ชมพื้นที่ทำนาและบรรยากาศธรรมชาติรอบหมู่บ้าน
ที่ตั้ง:
อยู่ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ ประมาณ 2 กิโลเมตร ทางไปดอยสะโง้ว สอบถามรายละเอียดได้ที่
โทร. 053
784 060 โทรสาร 053
784 062
พระธาตุดอยปูเข้า
พระธาตุดอยปูเข้า
ตามเส้นทางเชียงแสน-สบรวก
แยกซ้ายก่อนถึงสามเหลี่ยมทองคำเล็กน้อย รถยนต์สามารถขึ้นไปถึงยอดเขา
หรือจะเดินขึ้นบันไดก็ได้
พระธาตุดอยปูเข้านี้ สร้างขึ้นบนดอยเชียงเมี่ยง ริมปากน้ำรวก เมื่อ พ.ศ. 1302
ในสมัยพระยาลาวเก้าแก้วมาเมือง กษัตริย์องค์ที่ 2
แห่งเวียงหิรัญนครเงินยาง โบราณสถานประกอบด้วยพระวิหาร และกลุ่มเจดีย์ที่พังทลาย
ก่อด้วยอิฐมีร่องรอยการตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น
นอกจากนี้บนดอยเชียงเมี่ยงยังเป็นจุดชมวิว สามารถมองเห็นสามเหลี่ยมทองคำได้ชัดเจน
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.tripdeedee.com/traveldata/chiangrai/chiangrai17.php